ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม
- วัดภาณุรังษี
- 31 ก.ค. 2566
- ยาว 1 นาที
วันนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว เริ่มหนาวแล้ว เวลาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เป็นเครื่องหมาย ฤดูกาลมันเป็นเครื่องบอกเรา วันเวลาล่วงไปๆ นี่ใกล้ลอยกระทง ลอยกระทงเราก็สนุกสนานกัน ที่จริงวันลอยกระทง มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาอยู่อย่างหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องนางนพมาศ แต่เป็นวันที่พระสารีบุตรปรินิพพาน 6 เดือนก่อนพระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน พระอัครสาวกท่านจะต้องนิพพานก่อน เป็นประเพณีอย่างนั้น หลังจากนั้นอีก 15 วัน พระมหาโมคคัลลานะนิพพาน
การที่พระอัครสาวกมีธรรมเนียม ที่จะนิพพานก่อนพระพุทธเจ้า มองดูมันก็มีเหตุผล คือถ้าพระอัครสาวกยังอยู่ พระพุทธเจ้านิพพานมันก็จะมีคนรับช่วงเป็นศาสดาต่อ พระพุทธเจ้าท่านต้องการให้ธรรมวินัยเป็นศาสดาของพวกเรา ของชาวพุทธ ภายหลังจากท่านปรินิพพาน เมื่อสิ้นพระสารีบุตร สิ้นพระมหาโมคคัลลานะแล้ว พระผู้ใหญ่ที่สุดก็คือพระมหากัสสปะ ท่านก็เลยเป็นผู้นำสังคายนา สังคายนาครั้งแรกมีพระวินัย กับพระสูตร พระธรรมะ ธรรมวินัย ส่วนของพระวินัยพระอุบาลีท่านเก่ง ส่วนของธรรมะที่อธิบายจัดหมวดหมู่ พระอานนท์ คนอินเดียไม่รู้จักพระอานนท์ คนสมัยพุทธกาลท่านชื่อพระอานันทะ คนไทยมาเรียกว่าพระอานนท์
ฉะนั้นธรรมะก็ค่อยๆ ฝัง ค่อยๆ หยั่งรากลง แข็งแรงขึ้น กระจายตัวออกไป ผ่านไปประมาณ 200 ปี ธรรมะแท้ๆ ก็เริ่มลบเลือน พวกอลัชชีมากมาย เพราะคนจำนวนมากนับถือพระพุทธศาสนา พากันปรนเปรอพระ พวกชั่วๆ มันก็เข้ามาบวช ก็มาทำความเสียหาย พระดีๆ ท่านก็หลบเร้นออกไป จนพระเจ้าอโศกทำสังคายนาครั้งที่ 2 จัดสังคายนา เที่ยวไปหาว่าจะหาพระองค์ไหน มาเป็นประธานในการสังคายนา ไปได้พระโมคคัลลีบุตรติสสะ มาเป็นประธาน มันเป็นเรื่องประหลาดอย่างหนึ่ง องค์ที่เป็นประธานสังคายนาครั้งที่ 2 คือพระโมคคัลลีบุตรติสสะ คนไม่รู้จัก คนรู้จักแต่พระอุปคุต ธรรมะจริงๆ มันอยู่ยากจริงๆ เราไปสร้างตำนานพระอุปคุตขึ้นมา
ธรรมะที่ยกระดับของเราให้พ้นจากความเป็นสัตว์
พระพุทธเจ้าท่านสอนธรรมะ ที่ยกระดับของเราให้พ้นจากความเป็นสัตว์ เป็นมนุษย์ผู้มีใจสูง ฉะนั้นมันฝืนกิเลสอย่างรุนแรงเลย ในโลกก็มีตัวมีตน พระพุทธเจ้าบอกไม่มีตัวตน ในโลกเขาแย่งชิงให้มากที่สุด พระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวาง มันสวนกระแส สวนกับธรรมชาติจิตใจของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธ มันอยู่ได้ไม่ค่อยนานเท่าไร มีคนมีบุญบารมีรวมกันมาเกิดเป็นชุดๆ ไป ชุดนี้เกิดมาสะสมบุญบารมีมากพอ ก็บรรลุมรรคผลนิพพานหมดไปชุดหนึ่ง ชุดอื่นก็เข้ามาต่อเป็นกลุ่มๆ ไป
ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอก เมื่อหลายสิบปีมาแล้วท่านบอกว่า “สัตว์นรกมันขึ้นมามากแล้ว ต่อไปพวกเราคนมีศีล มีธรรม จะอยู่กับเขายาก ให้พวกเราเร่งภาวนา ต้องหนีมันต่อไป อย่าไปอยู่กับมันเลย” จะไปต่อสู้เอาชนะมัน มันก็เยอะเหลือเกิน สัตว์ที่มันตามใจกิเลส สู้กับมันไม่ไหวหรอก เราก็ถอยไป ภาวนาพ้นไปได้ก็พ้นไปเลย พ้นไม่ได้ท่านบอกว่าให้ไปต่อในเทวโลก ในพรหมโลก แต่ถ้าไปเป็นพรหม ให้เป็นพรหมที่เป็นรูปพรหม อย่าไปเป็นอรูปพรหม แล้วเวลามีการแสดงธรรม ในสวรรค์เขาก็แสดงธรรมกันอยู่เรื่อยๆ พระอริยะมีอยู่ หรือเวลาพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ก็จะได้มาฟังธรรมต่อ
ท่านบอกไว้อย่างนี้นานแล้ว ว่าท่านมองว่า สัตว์ในนรกมันถึงวาระที่ขึ้นมามากมาย เต็มไปหมดเลย อันนี้ท่านเล่า จริงหรือเปล่าหลวงพ่อไม่มีญาณพิเศษอะไรจะรู้หรอก แต่มาดูสังคมเราทุกวันนี้ มันโหดร้ายทารุณขึ้นเรื่อยๆ อย่างเมื่อก่อนเราไม่เคยเจอ อยู่ๆ ก็ไปไล่ฆ่าเด็ก ไม่ได้โกรธได้แค้นกับเด็ก อยากทำอะไรแปลกๆ ขึ้นมา สิ่งเหล่านี้คนทำไม่ได้ มนุษย์ทำไม่ได้ มนุษย์แปลว่าผู้มีใจที่สูง อย่างพวกเราให้ไปฆ่าหมาสักตัว เรายังทำไม่ได้เลย ฆ่าแมวสักตัวเราก็ทำไม่ได้ จิตใจมันไม่เสมอกัน มันมาอยู่ด้วยกัน มันอึดอัด อยู่ยาก
ฉะนั้นให้พวกเราตั้งอกตั้งใจภาวนา มันเป็นทางที่เราจะพ้นไปจากวังวนของสัตว์ทั้งหลาย เหมือนของสัตว์ทั้งหลาย จะได้พ้นจากวังวนอันนี้ไป พ้นความเป็นสัตว์มาเป็นมนุษย์ มนุษย์แปลว่าผู้มีใจสูง คือใจที่มันมีศีลมีธรรม แต่เดิมเราก็เป็นสัตว์ตัวหนึ่ง มีกิเลสหนาปัญญาหยาบเหมือนคนอื่นเขา ไม่ต้องไปเกลียดเขาหรอก เมื่อก่อนเราก็เลวอย่างนั้น แต่อาศัยที่เรามีความตั้งใจดี เข้ามาศึกษาปฏิบัติ รู้จักทำทาน รู้จักรักษาศีล รู้จักภาวนา ใจของเราก็สูงขึ้นๆ เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ
จิตของมนุษย์เป็นจิตที่เหมาะสมที่สุดที่จะปฏิบัติธรรม จิตในภพภูมิอื่นปฏิบัติธรรมลำบาก อย่างสูงสุดเลยมันภพของพรหม พรหมอายุยืนยาวมาก ชีวิตมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นมักจะติดในความสุข สบาย เพลินๆ ไป มีอายุยืนมาก พวกเทพเขาก็ติดในกามกัน ทั้งมีรูป มีเสียง มีกลิ่น มีรส มีสัมผัสที่น่าเพลิดเพลิน น่าพอใจ มีความสุขมากไป ก็เหมือนพวกคนบางคน เขามีความสุข เขาไม่ภาวนา ไม่รู้จะภาวนาทำไม ชีวิตมีความสุขอยู่แล้ว อย่างพรหมอายุยืนยาวไปจนประมาท พวกเทพมีความสุขมากไปจนประมาท สัตว์นรกมีความทุกข์เกินไป จนไม่มีกำลังที่จะปฏิบัติ อสุรกายมันมีมิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดต่างๆ นานา ก็ปฏิบัติไม่ได้ เปรตมีแต่ความอดอยาก หิวโหย มันก็ปฏิบัติไม่ได้ ใจมันเต็มไปด้วยโลภะ ต้องการ ขาดแคลนทุกสิ่งทุกอย่าง ใจไม่มีความสงบสุข
สัตว์เดรัจฉาน ในภพภูมิทั้งหลาย ภพของพรหมมันสูง พวกที่ต่ำที่สุดคือเดรัจฉาน เราเห็นว่าหมาบางตัว โอ้ เจ้าของรัก อยู่ดี กินดี แต่ถึงสัตว์เดรัจฉานไปได้รับการเลี้ยงดูดีแค่ไหน สัตว์เดรัจฉานก็เต็มไปด้วยโมหะ เต็มไปด้วยความหลง ไม่มีความรู้สึกตัว ใจล่องลอยไปเรื่อยๆ สัญชาตญาณกระตุ้นให้วิ่งไปเรื่อยๆ ฉะนั้นพวกนี้ภาวนาไม่ได้ จิตมีโมหะรุนแรง ในขณะที่มนุษย์ เรามีทั้งดี มีทั้งชั่ว อายุเราก็ไม่ได้ยืนเกินไป จนกระทั่งคิดว่าเราจะอยู่ค้ำฟ้า ร่างกายเราก็ไม่ได้แข็งแรงเกินไปที่จะอยู่ไปตั้งนานๆ ชีวิตเราก็เจอความสุขบ้าง ความทุกข์บ้าง สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง ไม่ได้มีแต่ความสุขล้วนๆ ความสุขมากมาย จนกระทั่งประมาท
เวลาความสุขเกิดขึ้นก็เกิดไม่นาน เวลาความทุกข์เกิดขึ้นก็เกิดไม่นาน เวลาจิตใจมีกุศลก็อยู่ไม่นาน จิตใจโลภ โกรธ หลงขึ้นมาก็อยู่ไม่นาน ร่างกายของมนุษย์นั้นเปลี่ยนแปลงเร็ว แต่ว่าไม่ได้เร็วมากเกินไป อย่างสัตว์เดรัจฉานบางพวกอายุ 2 – 3 วันก็ตายแล้ว ไม่ทันพัฒนาจิตใจ มนุษย์อายุไม่ยืนจนกระทั่งประมาท และก็ไม่อายุสั้นเกินไป มันเป็นภพภูมิที่ดี มนุษย์มีสติ มีปัญญา สามารถที่จะพัฒนาจิตใจตนเองได้
Comentarios